ราคาบิทคอยน์ ณ วันที่ผมเขียนบทความนี้ กำลังทะยานทะลุสามล้านบาท ผมคิดว่า สิ่งนี้น่าจะเป็นโอกาสอันดี ที่เราจะเริ่มต้น สะสมบิทคอยน์ ดังนั้นวันนี้ ผมมีกระเป๋าบิทคอยน์ตัวหนึ่งที่ใช้งานง่าย สำหรับผู้เริ่มต้นสะสมบิทคอยน์ มันมีชื่อว่า electrum wallet ครับ โดยจัดเป็น cold stroage ที่ดีที่สุดอันหนึ่งของโลก และมีระบบความปลอดภัยเต็มรูปแบบ
ซึ่งภายในบทความนี้ ผมจะสอนวิธีใช้งาน electrum wallet ตั้งแต่เริ่มต้น จนจบกระบวนการ เมื่อคุณทำตาม คุณจะมีกระเป๋าบิทคอยน์หนึ่งใบ ที่สามารถใช้รับและโอนบิทคอยน์ได้ และไม่มีใครมาขโมยเงินของคุณไปได้ตลอดกาล
แต่ก่อนอื่น เรามาทำความรู้จักกับ electrum wallet กันก่อนครับ
สารบัญ
Electrum Wallet คืออะไร
Electrum Wallet เป็นกระเป๋าเงินดิจิทัลแบบโอเพ่นซอร์สที่ได้รับความนิยมในกลุ่มผู้ใช้งาน Bitcoin เนื่องจากมีความเร็วในการทำธุรกรรมและมีความปลอดภัยสูง เปิดตัวครั้งแรกในปี 2011 โดย Thomas Voegtlin ซึ่ง Electrum ได้รับการออกแบบมาให้เป็นกระเป๋าเงินที่มีน้ำหนักเบา (lightweight wallet) เน้นการใช้งานง่าย ไม่ต้องดาวน์โหลดบล็อกเชนทั้งหมดเหมือนกระเป๋าเงินแบบเต็ม (full node wallet) ทำให้การติดตั้งและการใช้งานรวดเร็ว เหมาะกับทั้งผู้ใช้มือใหม่และผู้ใช้ที่มีประสบการณ์
โดยเราสามารถสรุปคุณสมบัติของกระเป๋านี้ได้ดังนี้
คุณสมบัติหลัก
1.ใช้งานง่าย | เนื่องจากไม่จำเป็นต้องดาวน์โหลดบล็อกเชนทั้งหมด ข้อมูลการทำธุรกรรมจะถูกเรียกจากเซิร์ฟเวอร์ของ Electrum ช่วยลดเวลาในการติดตั้งและเริ่มใช้งาน |
2.ระบบการรักษาความปลอดภัยที่แข็งแกร่ง | Electrum รองรับการใช้ seed phrase สำหรับการสำรองข้อมูลและกู้คืนกระเป๋าเงิน สามารถสร้างกระเป๋าเงินแบบหลายลายเซ็น (multi-signature) และรองรับการใช้งานกับฮาร์ดแวร์วอลเล็ต เช่น Ledger, Trezor เป็นต้น |
3.รองรับการใช้งานหลายแพลตฟอร์ม | Electrum รองรับการใช้งานบนหลายแพลตฟอร์ม เช่น Windows, Mac, Linux รวมถึงมีแอปสำหรับ Android ทำให้สามารถจัดการเงินของคุณได้สะดวกทุกที่ทุกเวลา |
4.การตั้งค่าค่าธรรมเนียมที่ยืดหยุ่น | Electrum ให้ผู้ใช้ตั้งค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมเอง ทำให้สามารถเลือกได้ว่าจะใช้ค่าธรรมเนียมต่ำเพื่อการทำธุรกรรมที่ช้าลง หรือค่าธรรมเนียมสูงสำหรับการทำธุรกรรมที่รวดเร็ว |
5.ฟังก์ชันสำหรับนักพัฒนา | Electrum มี API และฟังก์ชันมากมายสำหรับนักพัฒนาที่ต้องการพัฒนาแอปหรือโปรแกรมที่ใช้งานร่วมกับกระเป๋าเงิน Electrum |
ดังนั้นหากคุณต้องการเริ่มต้นสะสมบิทคอยน์ และเก็บเหรียญดังกล่าวให้ปลอดภัยอย่างสมบูรณ์ 100% การเลือกเก็บไว้ที่ electrum wallet จึงเป็นคำตอบที่ดีที่สุดครับ
วิธีสร้างกระเป๋าบิทคอยน์
ขั้นตอนการสร้างกระเป๋าบิทคอยน์ electrum wallet มีขั้นตอนที่ปลอดภัย และถูกต้อง 100% ดังต่อไปนี้ครับ
1.ให้คุณคลิกเข้าไปที่เว็บไซต์ https://electrum.org ซึ่งมีหน้าตาเหมือนกับภาพด้านล่าง
2.เลือกหน้าเว็บลงมาด้านล่างสุดจะพบกับปุ่ม Downlaod Electrum
3.จากนั้นเลือกระบบปฏิบัติการที่คุณต้องการติดตั้ง ซึ่งจากตัวอย่างนี้ ผมจะเลือกเป็น Windows โดยตามตารางจะมีให้เลือก 3 รูปแบบดังนี้คือ
ตัวเลือก | จุดเด่น |
---|---|
Standard Executable | 1.เป็นไฟล์ที่รันได้ทันที 2.ไม่ต้องติดตั้งลงบนระบบ 3.ดาวน์โหลดไฟล์แล้วเปิดใช้งานได้เลย 4.เหมาะสำหรับผู้ที่ใช้งานกระเป๋าชั่วคราว 5.ไม่ต้องการลงโปรแกรมลงในระบบ |
Wondows Installer | 1.ติดตั้งแบบเต็มบน Windows 2.จะติดตั้งลงในระบบพร้อมกับการตั้งค่าที่บันทึกไว้ได้ 3.เข้าถึงได้ง่ายจาก Start Menu 4.มีการอัปเดตเวอร์ชันแบบอัตโนมัติ |
Portable version (Security advice) | 1.ไม่ต้องติดตั้งลงในระบบ 2.สามารถใช้งานได้จากอุปกรณ์พกพา เช่น USB Drive 3.เหมาะสำหรับการพกพากระเป๋าไปใช้งานกับหลายอุปกรณ์โดยไม่ต้องติดตั้งใหม่ทุกครั้ง 4.ข้อมูลทั้งหมดจะถูกเก็บไว้ในโฟลเดอร์เดียว 5.ง่ายต่อการสำรองและกู้คืนข้อมูล |
4.สำหรับตัวอย่างนี้ผมจะเลือกตัวเลือกคือ Windows Installer เพราะต้องการติดตั้งกระเป๋าบิทคอยน์นี้ลงบน Windows Notebook ของผม และต้องการเข้าถึงได้ง่ายจากปุ่ม Start อีกทั้งต้องการให้กระเป๋าอัพเดทเวอร์ชั่นได้เองอัตโนมัติ
5.เมื่อดาวน์โหลดเสร็จสิ้น ให้มองหาไอคอนตามภาพด้านล่าง แล้วคลิกเพื่อติดตั้ง
6.รอจนการติดตั้งเสร็จสิ้น Completed ก้ให้คุณกดปุ่ม Close
7.จากนั้นให้มองหาเครื่องหมายตามภาพด้านล่าง ซึ่งจะปรากฎบน desktop รวมทั้งที่เมนนู Start นั่นแปลว่า การติดตั้ง Electrum Wallet เสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว
ในขั้นตอนต่อไป จะเป็นขั้นตอนการเข้าใช้งานครั้งแรก ซึ่งกระเป๋าจะให้เราสร้างรหัสความปลอดภัย ซึ่งสำคัญมากครับ เพราะคุณจะต้องเก็บมันไว้เป็นความลับตลอดชีวิต ผมแนะนำให้คุณเตรียมกระดาษและปากกาไว้ใกล้ๆตัวเพื่อเตรียมจดรหัสลับในขั้นตอนต่อไป
เข้าใช้งานครั้งแรก (สร้าง Seed Phrase)
1.เมื่อคุณคลิกที่ไอคอนของ Electrum wallet แล้วให้กดปุ่ม Next ตามภาพด้านล่าง
2.ระบบจะตั้งชื่อ wallet ให้คุณว่า default_wallet คุณยังไม่ต้องทำอะไรให้คลิก Next
3.จากนั้นระบบจะให้เลือกประเภทกระเป๋าที่ตอบโจทย์ของคุณ ซึ่งมีอยู่ด้วยกัน 3 ประเภทกับอีก 1 กระเป๋าเดิม ซึ่งหากคุณเน้นการใช้งานแบบเฉพาะตัวบุคคล ผมแนะนำให้เลือก Standard wallet ตามภาพด้านล่าง แล้วกดปุ่ม Next
ประเภทกระเป๋า | จุดเด่น |
---|---|
Standard wallet | 1.ใช้งานง่าย เหมาะสำหรับผู้ใช้งานทั่วไป 2.ตั้งค่ารวดเร็ว ไม่ซับซ้อน |
Wallet two-factor authentication | เพิ่มระบบความปลอดภัยแบบ 2FA เข้ามาด้วย |
Multi-signature wallet | 1.ระบบความปลอดภัยระดับสูงสุด 2.เหมาะสมกับการใช้งานองค์กร หรือผู้เข้าใช้งานหลายคน 3.ต้องมีลายเซ็นต์มากกว่า 2 คนจึงจะเปิดกระเป๋าได้ |
Import Bitcoin address or private keys | ใช้สำหรับกู้กระเป๋าบิทคอยน์ที่มีอยู่แล้วกลับมาใหม่ |
4.ในหัวข้อ Keystore หรือการเก็บกุญแจ ให้คุณเลือก Create a new seed หรือการสร้างกุญแจใหม่ จากนั้นกดปุ่ม next
5.ระบบจะสร้าง Seed Phrase จำนวน 12 คำให้กับคุณ ให้คุณจดคำเหล่านั้นลงบนกระดาษ และกดปุ่ม Next
สำคัญมาก! คุณจะต้องจดจำคำที่เรียกว่า Seed Phrase จำนวน 12 คำ โดยเขียนลงบนกระดาษ เพราะคำเหล่านี้จะใช้สำหรับการกู้กระเป๋าบิทคอยน์ของคุณ
- ห้ามบอก Seed Phrase นี้ให้ใครทราบเด็ดขาด
- ห้ามพิมพ์หรือเก็บไว้บนคอมพิวเตอร์
- ห้ามเก็บบันทึกบนเครื่องอิเล็กทรอนิกส์ใด ๆ
6.หลังจากนั้นระบบจะให้พิมพ์ seed phrase จำนวน 12 คำ อีกครั้ง ให้เราพิมพ์ให้ครบตามที่เราเขียนไว้ในกระดาษ โดยอย่าลืมเว้นวรรคคำแต่ละคำด้วย เสร็จให้กดปุ่ม Next
7.ให้สร้างรหัสผ่านเพื่อใช้ Login เข้ากระเป๋า เมื่อเสร็จแล้วให้กดปุ่ม Finish
8.ภายหลังจากกดปุ่มดังกล่าวระบบจะเปิดหน้าต่างขึ้นมาเป็นหน้า Dashboard ของกระเป๋า ดังภาพด้านล่าง ถือว่าเสร็จสมบูรณ์ โดยให้ตรวจสอบว่า มุมขวาล่างนั้นมีปุ่มสีเขียวขึ้นหรือไม่ (ปุ่มดังกล่าวแสดงความหมายว่า ระบบเชื่อมต่อกระเป๋ากับ Network สมบูรณ์ 100%)
ตอนนี้ถือได้ว่า คุณมีกระเป๋าบิทคอยน์ โดยสมบูรณ์เรียบร้อย พร้อมใช้งานแล้วครับ ในขั้นตอนต่อไป ผมจะให้คุณไปศึกษา วิธีการตรวจสอบเลขกระเป๋า หรือ bitcoin address ว่าทำอย่างไร เพื่อที่คุณจะสามารถนำไปใช้งานได้ตามความเหมาะสมต่อไป
วิธีตรวจสอบเลขกระเป๋าบิทคอยน์ของคุณ
สำหรับเลขกระเป๋าบ์ทคอยน์ ที่คุณมีบน electrum wallet นั้นจะมีมากกว่าหนึ่งเลขครับ ซึ่งวิธีการตรวจสอบมีขั้นตอนง่าย ๆ ดังนี้
1.ให้คลิกที่ View และตามด้วย Addresses
2.จากนั้นคุณจะเห็นแท้บปรากฎขึ้นมาชื่อ Addresses ให้คลิกเข้าไป จะเจอกับหน้าตา Interface ตามภาพ ซึ่งจะระบุเลขกระเป๋าบิทคอยน์ (ขึ้นต้นด้วย bc เพราะรองรับเครือข่าย Segwit) คุณสามารถนำเลขกระเป๋าไปใช้งานได้ตามต้องการ
คำศัพท์ | คำอธิบาย |
---|---|
Receiving | หมายถึงที่อยู่ (address) ที่ออกแบบมาเพื่อรับ Bitcoin ที่ถูกส่งเข้ามาในกระเป๋าเงิน (wallet) ของคุณ ที่อยู่นี้จะถูกใช้เพื่อรับเงินโดยเฉพาะ ซึ่งจะปรากฏใน Electrum Wallet เพื่อให้คุณใช้เป็นที่อยู่ในการรับการชำระเงินหรือการโอนเงินจากผู้อื่น |
Change | หมายถึงที่อยู่สำหรับเก็บเงินส่วนเกินหรือเงินทอน (change address) เมื่อคุณส่ง Bitcoin ออกจากกระเป๋าเงิน การทำธุรกรรม Bitcoin มักมีการส่งเงินไปยังที่อยู่ผู้รับ และเงินส่วนเกินที่ไม่ได้ใช้จะถูกส่งกลับมาที่กระเป๋าของคุณในลักษณะของ “change” ที่อยู่นี้มีไว้เพื่อจัดการเงินทอนในระบบ Electrum Wallet |
ในขั้นตอนต่อไปผมจะสอนวิธี รับบิทคอยน์จากกระเป๋าใบอื่นที่โอนมาว่าจะต้องทำอย่างไร มีขั้นตอนง่ายๆ ดังนี้ครับ
วิธีรับบิทคอยน์ (Receive) เข้ามาเก็บไว้ที่กระเป๋า electrum wallet
เมื่อคุณต้องการโอนบิทคอยน์จากที่ใดก็ตามมาเก็บไว้ใน electrum wallet มีขั้นตอนดำเนินการอย่างง่าย ๆ ดังต่อไปนี้ครับ
1.เลือกแท้บ Receive ใน electrum wallet จากนั้นดำเนินการดังนี้
- Description ให้ระบุเหตุผลของการรับเงิน เช่น “สะสมบิทคอยน์ที่โอนมาจาก binance” เป็นต้น (ไม่รับุก็ได้)
- Requested amount จำนวนบิทคอยน์ที่ต้องการรับ (ไม่ระบุก็ได้)
- Expiry หมายถึงให้สถานะกระเป๋ายังคง Active อยู่ โดยปกติจะตั้งไว้ 1 day หรือหนึ่งวัน
เมื่อระบุค่าต่าง ๆ เสร็จแล้ว ให้กดปุ่ม Create Request
2.มุมบนขวาให้กดสวิตซ์ปุ่มไปเรื่อย ๆ จนขึ้นคำว่า Address เราก็จะได้เลขกระเป๋าบิทคอยน์ที่จะเอาไปใช้รับเงิน (ขึ้นต้นด้วย bc) ก้ให้เรา คัดลอกเลขกระเป๋าออกมา
3.เมื่อได้เลขกระเป๋าแล้ว เราก็เปิดหน้า Withdrow Crypto ของกระเป๋าต้นทางที่จะถอน โดยในตัวอย่าง ผมเลือกกระเป๋าของ Binance เป็นต้นทางที่จะถอนออกมา
4.ระบุข้อมูลต่าง ๆ ให้ครบถ้วน เริ่มจากเลือก Bitcoin กรอก Address เป็นเลขกระเป๋าปลายทางจาก electrum ที่เราเพิ่งคัดลอกมา จากนั้นตามด้วยเลือกเครือข่าย (ฺBTC) จากนั้นใส่จำนวนบิทคอยน์ที่ต้องการโอน เมื่อเสร็จแล้วก็กดปุ่มสีเหลือง Withdrow
5.จากนั้นรอกระบวนการ confirm transection เมื่อเสร็จแล้ว คุณจะพบจำนวนบิทคอยน์เข้ามาอยู่ในกระเป๋าปลายทางที่ electrum wallet ตามภาพด้านล่าง
ขั้นตอนการรับบิทคอยน์ ก็มีง่าย ๆ เพียงเท่านี้ครับ ในขั้นตอนต่อไปผมจะสอนวิธี ส่งบิทคอยน์ จาก electrum wallet ไปไว้ที่อื่น โดยมีวิธีการดังต่อไปนี้…
วิธีส่งบิทคอยน์ (Send) ไปยังกระเป๋าที่อื่น
สำหรับวิธีการส่งบิทคอยน์นั้น ผมจะยกตัวอย่างโดยผมจะส่งเหรียญบิทคอยน์ไปเก็บไว้ที่ Unstoppable ซึ่งเป็นกระเป๋าบิทคอยน์ ที่สามารถใช้งานบน iPhone ได้ ดังนั้นมันมีขั้นตอนดังนี้
1.ให้คุณไปคัดลอก Bitcoin Address ปลายทางที่คุณต้องการจะส่งไปมาเก็บไว้จากนั้นทำขั้นตอนต่อไปคือ…
2.เข้าไปที่แท้บของ electrum จากนั้นเลือกหัวข้อ Send จากนั้นกรอกข้อมูลดังนี้
- Pay to ให้ระบุ bitcoin address ปลายทางจากข้อ 1. (ต้องใส่)
- Description ให้ระบุรายละเอียดการทำธุรกรรมนี้ (ไม่ใส่ก็ได้)
- Amount จำนวนบิทคอยน์ที่ต้องการโอนไป หรือจะกดปุ่ม MAX หากต้องการให้โอนไปทั้งหมด
เมื่อกรอกข้อมูลเสร็จแล้วให้กดปุ่ม pay
3.เมื่อกดปุ่ม Pay แล้วระบบจะให้เลือกประเภทค่าธรรมเนียม ซึ่งหากเราไม่ทำอะไรมันจะเซตค่าเป็น ETA มาให้ เราก็สามารถโอนโดยใช้ค่านั้นได้เลย โดยการกดปุ่ม OK ตามภาพด้านล่าง
ประเภทค่าธรรมเนียม | คำอธิบาย | เหมาะสมกับ |
---|---|---|
Static (ค่าธรรมเนียมคงที่) | เป็นค่าธรรมเนียมที่กำหนดไว้คงที่ ไม่เปลี่ยนแปลงตามสภาวะของเครือข่าย เช่น ความหนาแน่นของธุรกรรมในช่วงเวลานั้น | การส่งบิทคอยน์ที่ไม่ได้เร่งด่วน เพราะอาจต้องรอเวลานานหากเครือข่ายมีธุรกรรมมาก |
ETA (Estimated Time of Arrival) | ใช้การคาดคะเนจากความเร็วในการยืนยันธุรกรรม (confirmation time) โดยคำนวณจากข้อมูลในอดีต เพื่อคาดการณ์ว่าใช้เวลานานเท่าใดธุรกรรมจะได้รับการยืนยัน | ส่งบิทคอยน์ที่ต้องการความรวดเร็ว และต้องการให้ธุรกรรมได้รับการยืนยันในเวลาสั้นที่สุด |
Mempool | ค่าธรรมเนียมแบบ Mempool อิงจากสถานะของหน่วยความจำเครือข่าย (Mempool) ซึ่งเป็นที่เก็บธุรกรรมที่รอการยืนยัน | เป็นประโยชน์ในกรณีที่เราต้องการให้ค่าธรรมเนียมเหมาะสมกับสถานะของเครือข่ายขณะนั้น |
4.หลังจากกดปุ่ม OK ในข้อ 3. ข้างต้นแล้ว ระบจะให้คุณใส่ Password จำนวน 1 ครั้ง ให้คุณใส่ให้เรียบร้อยแล้วกด OK จากนั้นระบบก็จะเริ่มต้นโอนบิทคอยน์จากกระเป๋า Electrum ไปที่กระเป๋าปลายทาง โดยระยะเวลาจะช้าหรือเร็วขึ้นอยู่กับความหนาแน่นของเครือข่าย กับค่าธรรมเนียมที่เราจ่ายครับ
วิธีประยุกต์ใช้ electrum wallet ในชีวิตประจำวัน
หลังจากที่ผมสอนวิธี รับบิทคอยน์ และส่งบิทคอยน์ เรียบร้อยแล้ว ในขั้นตอนนี้ผมอยากแบ่งปันวิธีประยุกต์ใช้บิทคอยน์ ในชีวิตประจำวัน เพื่อเป็นไอเดียให้คุณได้รับประโยชน์สูงสุดจากการใช้งานกระเป๋าบิทคอยน์ electrum ครับ
1.ใช้เก็บสะสมบิทคอยน์ เสมือนอยู่ในตู้เซฟ
คุณสามารถเปลี่ยนทรัพย์สิน หรือเงินของคุณให้เป็นบิทคอยน์ โดยนำเงินบาท โอนเข้าไปยังกระดานเทรดที่ถูกกฎหมายในประเทศไทย (ได้รับรองจาก ก.ล.ต.ประเทศไทย) จากนั้นซื้อเหรียญบิทคอยน์ และโอนเหรียญบิทคอยน์มาเก็บไว้ที่ electrum ครับ
เมื่อเหรียญเดินทางมาถึงกระเป๋า electrum คุณมั่นใจได้ 100% ว่า ตราบใดที่คุณไม่ได้บอก Seed Phrase ให้ใคร หรือ ข้อมูลด้าน Seed Phrase ถูกเปิดเผย จะไม่มีใครเลยที่ขโมยเงินของคุณไปได้ตลอดกาล!
ดังนั้นมันจึงเป็นตู้เซฟชั้นยอด ที่ดีที่สุดเท่าที่จะมีบนโลกใบนี้ ดังนั้น ไม่ว่าคุณจะเป็นคนยากจน หรือจนยากในตอนนี้ เพื่อให่้แน่ใจว่าความมั่งคั่งของคุณจะไม่ถูกขโมย จนรีบแปลเปลี่ยนมันมาเก็บไว้ที่ electrum ตอนนี้เลยครับ
2.ใช้ชำระสินค้าหรือบริการที่รับชำระด้วยบิทคอยน์
ปัจจุบัน เริ่มมีการรับชำระสินค้าหรือบริการด้วยบิทคอยน์มากขึ้น ช่วยให้คุณไม่ต้องแปลงเงินบิทคอยน์กลับมาเป็นเงินบาท ซึ่งจะมีค่าภาษีจำนวน 15% รอคุณอยู่ โดยในปัจจุบันวิธีการหรือช่องทางชำระด้วยบิทคอยน์มีดังนี้
สินค้าหรือบริการ | วิธีการ |
---|---|
จองตั๋วเครื่องบิน / ที่พัก / กิจกรรม | สามารถชำระด้วยบิทคอยน์เมื่อจองผ่าน https://www.travala.com |
ชำระค่าสินค้า / บริการ | ด้วยบัตร Freedom Card ของบิททาสซ่า https://www.freedom.cards/freedom-card |
กาแฟอินทนิล | ชำระด้วยบิทคอยน์ / USDT และคริปโตตัวอื่นๆ ได้ |
เครื่องคอมพิวเตอร์ / อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ | iHAVECPU เปิดรับชำระค่าสินค้าด้วยบิทคอยน์ https://ihavecpu.com |
คาดว่าในอนาคต น่าจะมีร้านค้า รวมทั้งบริการอีกมากมายที่รองรับการชำระเงินด้วยบิทคอยน์โดยตรงครับ
3.ส่งต่อมูลค่าบิทคอยน์เป็นมรดกให้ลูกหลาน
รหัส Seed Phrase เปรียบเสมือนจอกศักดิ์สิทธิ์ ที่คุณสามารถส่งต่อความมั่งคั่งให้กับลูกหลาน คุณสามารถเขียนพินัยกรรม โดยเพียงแค่ระบุ Seed Phrase จำนวน 12 ตัวเท่านั้น มันปลอดภัย ไม่มีค่าเก็บรักษา และทำให้คุณ
ลองเริ่มต้นเปลี่ยนมันดูครับ แล้วคุณจะพบว่ามันปลอดภัย และทำให้คุณสนุกกับการสะสมบิทคอยน์เพิ่มขึ้นด้วย
เป็นอย่างไรกันบ้างครับ กับวิธีใช้งาน กระเป๋าบิทคอยน์ Electrum wallet ไม่ยากเลย และคุณสามารถทำตามได้ทันทีทุกขั้นตอน ถือเป็นกระเป๋าที่นักสะสมบิทคอยน์ต้องมี! และไม่ต้องกลัวว่ามันจะสูญหาย ตราบใดที่คุณยังสามารถจดจำ Seed phrase จำนวน 12 ตัวได้อย่างถูกต้องไว้ในใจ จะไม่มีใครขโมยสินทรัพย์ของคุณนี้ไปได้เลยตลอดกาล!
หากคุณคิดว่าบทความนี้เป็นประโยชน์ โปรดแชร์บทความนี้ให้กับทุก ๆ คน อีกทั้งช่วยกันแสดงความเห็นใต้บทความด้านล่างนี้ครับ ผมจะเข้ามาตอบทุกความคิดเห็นครับ ขอบคุณทุกคนล่วงหน้าเลยครับ
ข้อมูลอ้างอิง
https://electrum.org electrum wallet official website. |
https://bitcoin.org/en/wallets/desktop/windows/electrum bitcoin.org แนะนำให้ใช้งาน electrum wallet |
https://bitcoinelectrum.com unofficial guide |