ในปัจจุบัน การลงทุนในบิทคอยน์ (Bitcoin) ไม่ได้จำกัดเพียงแค่การซื้อและถือ (HODL) อย่างเดียวอีกต่อไป ผู้ที่ถือกระเป๋าบิทคอยน์ ในระยะยาวสามารถสร้างรายได้แบบ Passive Income ได้เช่นกัน โดยใช้วิธีต่างๆ ที่เปิดโอกาสให้นักลงทุนได้รับผลตอบแทนจากบิทคอยน์ที่ถืออยู่ ไม่ว่าจะเป็นการวางบิทคอยน์ในแพลตฟอร์มที่มีการให้ดอกเบี้ย การปล่อยกู้บิทคอยน์ หรือการนำบิทคอยน์ไปใช้ในโปรโตคอลทางการเงินต่างๆ ในบทความนี้เราจะพาคุณไปสำรวจวิธีการสร้าง Passive Income จากการถือครองบิทคอยน์ในระยะยาว เพื่อให้คุณสามารถนำไปปรับใช้ในการลงทุนของคุณได้
สารบัญ
1. การฝากบิทคอยน์เพื่อรับดอกเบี้ย (Bitcoin Savings Account)
หนึ่งในวิธีที่ง่ายและสะดวกที่สุดในการสร้างรายได้แบบ Passive Income จากบิทคอยน์ คือหลังจากคุณ ซื้อบิทคอยน์ และการนำบิทคอยน์ไปฝากในแพลตฟอร์มที่มีการให้ดอกเบี้ย เช่น Nexo หรือ Binance Earn โดยที่แพลตฟอร์มเหล่านี้จะทำหน้าที่คล้ายกับธนาคาร แต่เป็นการเก็บรักษาสินทรัพย์ดิจิทัล เช่น บิทคอยน์ และให้ดอกเบี้ยตอบแทนตามระยะเวลาที่ฝาก
ขั้นตอนการฝากบิทคอยน์เพื่อรับดอกเบี้ย
1. เลือกแพลตฟอร์มที่น่าเชื่อถือและมีการรับรองจากหน่วยงานกำกับดูแล |
2. ฝากบิทคอยน์ของคุณในบัญชีที่มีการให้ดอกเบี้ย |
3. ระบุระยะเวลาการฝาก โดยบางแพลตฟอร์มอาจมีการล็อกบิทคอยน์ของคุณ เช่น 1 เดือน 3 เดือน หรือ 1 ปี |
4. รับดอกเบี้ยรายเดือนหรือรายวัน ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแพลตฟอร์ม |
อัตราดอกเบี้ยที่คุณจะได้รับจะแตกต่างกันไปในแต่ละแพลตฟอร์ม และยังขึ้นอยู่กับปริมาณบิทคอยน์ที่คุณฝาก การเลือกใช้แพลตฟอร์มที่มีความปลอดภัยและมีประวัติการทำธุรกรรมที่น่าเชื่อถือเป็นสิ่งสำคัญ เพราะหากเกิดปัญหากับแพลตฟอร์ม ผู้ใช้อาจสูญเสียเงินทุนได้
ข้อมูลอัตราดอกเบี้ยฝากบิทคอยน์ ณ ปัจจุบัน
ผู้ให้บริการ | อัตราดอกเบี้ย |
---|---|
Nexo | 4% ออมทรัพย์ สูงสุด 7% (ฝากประจำ) จ่ายดอกเบี้ยทุกวัน |
Binance Earn | 0.27% ออมทรัพย์ 3.65-14.85% (ฝากประจำ) จ่ายดอกเบี้ยทุกวัน |
2. การปล่อยกู้บิทคอยน์ (Bitcoin Lending)
การปล่อยกู้บิทคอยน์เป็นอีกวิธีที่นักลงทุนสามารถสร้าง Passive Income ได้ โดยการให้ผู้อื่นยืมบิทคอยน์และรับดอกเบี้ยจากการปล่อยกู้นั้น นักลงทุนนิยมใช้แพลตฟอร์มที่ให้บริการนี้ เช่น Aave, Compound
การปล่อยกู้บิทคอยน์จะทำให้คุณได้รับดอกเบี้ยตอบแทนที่สูงกว่าการฝากบิทคอยน์ทั่วไป เนื่องจากเป็นการให้ยืมสินทรัพย์ไปใช้ในตลาด แต่ในขณะเดียวกันก็มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นเพราะผู้ยืมอาจไม่สามารถคืนบิทคอยน์ได้
ข้อดี | ข้อเสีย |
---|---|
อัตราดอกเบี้ยที่สูง ทำให้ผู้ปล่อยกู้สามารถรับผลตอบแทนที่มากขึ้นในระยะเวลาอันสั้น | ความเสี่ยงจากการที่ผู้ยืมอาจไม่สามารถชำระหนี้คืน |
ความผันผวนของ ราคาบิทคอยน์ |
3. การ Staking ด้วยเหรียญที่รองรับบิทคอยน์ (Wrapped Bitcoin Staking)
แม้ว่าบิทคอยน์จะไม่สามารถถูกใช้ในการ Staking โดยตรงเหมือนกับเหรียญที่มีการใช้ Proof of Stake เช่น Ethereum หรือ Cardano แต่คุณยังสามารถใช้วิธีการแปลงบิทคอยน์ของคุณไปเป็นเหรียญที่มีมูลค่าเทียบเท่าบิทคอยน์ เช่น Wrapped Bitcoin (WBTC) ซึ่งเป็นเหรียญ ERC-20 ที่ผูกมูลค่ากับบิทคอยน์ โดยเมื่อแปลงเป็น WBTC แล้ว คุณสามารถนำ WBTC ไป Staking ในแพลตฟอร์ม DeFi เช่น Uniswap, SushiSwap หรือ Compound เพื่อรับรางวัลเป็นเหรียญต่างๆ ได้
ขั้นตอนในการสร้างรายได้ด้วยวิธีนี้
1. แปลงบิทคอยน์ของคุณเป็น WBTC ผ่านแพลตฟอร์มที่รองรับ |
2. นำ WBTC ไป Staking ในโปรโตคอล DeFi ที่คุณเลือก |
3. รับผลตอบแทนเป็นเหรียญต่างๆ ที่คุณสามารถนำไปแลกเป็นบิทคอยน์หรือเหรียญอื่นๆ ได้ |
แม้ว่าการใช้ WBTC อาจจะมีความซับซ้อนในการเริ่มต้น แต่ก็เป็นวิธีที่นักลงทุนหลายคนใช้เพื่อสร้างรายได้จากบิทคอยน์ที่มีอยู่
4. ลงทุนในบอทเทรด คุณลักษณะเฉพาะ
อีกหนึ่งวิธีที่สามารถสร้างรายได้แบบ passive income อย่างยั่งยืนนั่นคือ นำเงินบิทคอยน์ของคุณ มาลงทุนในบอทเทรดที่มีลักษณะเฉพาะ ซึ่งมีอยู่หนึ่งค่ายที่น่าสนใจนั่นคือ Pionex.com ซึ่งจะมีบอทเทรดตัวหนึ่งชื่อว่า Bitcoin Growth โดยเพียงคุณฝากเงิน USDT เข้าไปและเปิดบอทดังกล่าว บอทจะทำการซื้อบิทคอยน์และสะสมไปเรื่อย ๆ พร้อมขยายจำนวนบิทคอยน์ให้มากขึ้น
หมายความว่า เมื่อเวลาผ่านไปทุกวันๆ คุณจะมีจำนวนบิทคอยน์ เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ นั่นเอง ถือเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ในการสร้างรายได้ passive income ที่ชาญฉลาด และมีอัตราผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปีสูงกว่า 10% APR เลยทีเดียว
ขั้นตอนการสร้างรายได้ด้วยบอทเทรด
1. สมัครเป็นสมาชิก pionex.com และทำการยืนยันตัวตนให้ผ่าน |
2. ฝากเหรียญ USDT เข้าไป |
3. เปิดบอทเทรดที่ชื่อ Bitcoin Growth และระบุจำนวนเงิน USDT ที่ต้องการรันบอท |
4. รอดูจำนวนบิทคอยน์ที่เพิ่มขึ้นใน pionex.com |
5. การเข้าร่วม Lightning Network
Lightning Network เป็นโปรโตคอล Layer 2 ที่ช่วยให้การทำธุรกรรมบิทคอยน์สามารถทำได้รวดเร็วขึ้นและมีค่าธรรมเนียมที่ต่ำลง นอกจากนี้ นักลงทุนยังสามารถสร้างรายได้จากการเข้าร่วมเป็นโหนดในเครือข่าย Lightning โดยเปิดช่องสัญญาณ (Channel) ให้กับผู้ใช้รายอื่นๆ ในเครือข่ายและรับค่าธรรมเนียมจากการประมวลผลธุรกรรม
ข้อดีของการเข้าร่วม Lightning Network
1. ค่าธรรมเนียมที่ต่ำและการทำธุรกรรมที่รวดเร็ว |
2. โอกาสในการสร้างรายได้จากการเปิดช่องสัญญาณและการให้บริการเครือข่าย |
แม้ว่าในปัจจุบัน Lightning Network อาจยังไม่แพร่หลายมากเท่ากับการฝากบิทคอยน์หรือการปล่อยกู้บิทคอยน์ แต่มันเป็นโอกาสที่ดีในการสร้างรายได้หากคุณมีความเชี่ยวชาญในการตั้งค่าและดูแลโหนดของคุณเอง
กล่าวโดยสรุป
ในระยะยาว การถือครองบิทคอยน์สามารถนำมาสร้างรายได้แบบ Passive ได้หลากหลายวิธี ขึ้นอยู่กับความต้องการของคุณ พร้อมกับระดับความเสี่ยงทางการเงินที่คุณยอมรับได้ ซึ่งการสร้างรายได้ดังกล่าว ยังช่วยให้คุณสนุกกับการสะสมบิทคอยน์ และได้รับประโยชน์จากการถือครองบิทคอยน์อีกด้วย
ดังนั้นอย่าลืมประยุกต์ใช้แนวคิดต่าง ๆ สู่วิธีการสร้างรายได้กับบิทคอยน์นะครับ