การซื้อบิทคอยน์โดยไม่ผ่านคนกลางเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมในกลุ่มผู้ที่ต้องการลดค่าธรรมเนียมและควบคุมการทำธุรกรรมด้วยตัวเอง อย่างไรก็ตาม การซื้อบิทคอยน์ในลักษณะนี้ต้องทำอย่างถูกกฎหมายและปลอดภัย บทความนี้จะอธิบายขั้นตอน “วิธี ซื้อบิทคอยน์ ไม่ผ่านคนกลาง” พร้อมแนวทางการทำให้ถูกต้องตามกฎหมายในประเทศไทย
สารบัญ
- 1. เลือกกระเป๋าสตางค์ดิจิทัลที่ปลอดภัย
- 2. ค้นหาผู้ขายโดยตรง (P2P Marketplaces)
- 3. ตรวจสอบโปรไฟล์และความน่าเชื่อถือของผู้ขาย
- 4. ทำธุรกรรมผ่านระบบ Escrow เพื่อความปลอดภัย
- 5. ยืนยันตัวตน (KYC) ตามข้อกำหนด
- 6. โอนบิทคอยน์ไปยังกระเป๋าสตางค์ส่วนตัว
- 7. ปฏิบัติตามกฎหมายเกี่ยวกับภาษี
- 8. ป้องกันความเสี่ยงจากการหลอกลวง
1. เลือกกระเป๋าสตางค์ดิจิทัลที่ปลอดภัย
เมื่อคุณตัดสินใจที่จะ ซื้อบิทคอยน์ ไม่ผ่านคนกลาง สิ่งแรกที่คุณควรมีนั่นคือ กระเป๋าบิทคอยน์ หรือ กระเป๋าสตางค์ดิจิทัล โดยมีวัตถุประสงคืสำคัญคือ เพื่อเก็บบิทคอยน์ของคุณให้ปลอดภัยแบบ 100% โดย กระเป๋าบิทคอยน์ (ประเภท Software) ที่แนะนำสำหรับผู้เริ่มต้นมีดังนี้
ชื่อกระเป๋า | สรุปจุดเด่น |
---|---|
Electrum Wallet | 1. น้ำหนักเบา ติดตั้งรวดเร็วมาก 2. ปลอดภัยสูง สำรองข้อมูลด้วย Seed Phrase 3. ควบคุมค่าธรรมเนียมได้ด้วยตนเอง 4. รองรับ Segwit (ค่าธรรมเนียมลด + ทำธุรกรรมไว้ขึ้น) 5. รองรับ hardware Wallet เช่น Tezor, Ledger เหมาะสมสำหรับผู้ใช้งานใหม่ สอนใช้งาน electrum wallet |
Bitpay | 1. รองรับเหรียญบิทคอยน์ และคริปโตตัวอื่น ๆ 2. มีฟีเจอร์ชำระเงินออนไลน์ด้วยคริปโต 3. ควบคุมด้วยตนเอง 100% ไม่มีใครขโมยเหรียญได้ 4. ใช้งานสะดวกทั้งบนเว็บ, IOS, Android 5. รองรับการใช้บัตร Bitpay เหมาะสมสำหรับผู้ใช้งานใหม่ |
Unstoppable | 1. ข้อมูลถูกปกปิดเป็นความลับด้วยเครือข่าย Tor 2. กระเป๋าแบบ Non-custodial ควบคุมได้ 100% 3. จัดเก็บทรัพย์สินดิจิทัลได้หลากหลาย 4. โปร่งใส 100% เพราะเป็น Open source 5. รองรับ Segwit และ Bech32 เหมาะสมสำหรับผู้ใช้งานใหม่ |
ค้นหา กระเป๋าบิทคอยน์ เพิ่มเติม
2. ค้นหาผู้ขายโดยตรง (P2P Marketplaces)
การซื้อบิทคอยน์โดยไม่ผ่านคนกลางสามารถทำได้ผ่าน ตลาดแบบเพียร์ทูเพียร์ (P2P) ที่เชื่อถือได้ ตัวอย่างแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมในระดับโลกและมีความปลอดภัยสูง ได้แก่
ผู้ให้บริการ | สรุปจุดเด่น |
---|---|
Binance P2P | 1. มีระบบ Escrow น่าเชื่อถือ 100% 2. ซื้อบิทคอยน์ด้วยเงินบาท ได้หลากหลายวิธี 3. มีะระบบ Feedback ผู้ขาย 4. ไม่มีค่าธรรมเนียมซื้อบิทคอยน์ 5. ซื้อบิทคอยน์จำนวนมาก ๆ ได้ (มากกว่า 100 BTC) |
Paxful | 1. มีระบบ Escrow น่าเชื่อถือ 100% 2. ซื้อบิทคอยน์ด้วยเงินบาท ได้หลากหลายวิธี 3. มีะระบบ Verify ผู้ขายให้ เพิ่มความมั่นใจก่อนซื้อ 4. ไม่มีค่าธรรมเนียมซื้อบิทคอยน์ 5. ซื้อบิทคอยน์จำนวนมาก ๆ ได้ (มากกว่า 100 BTC) |
HodlHodl | 1. มีระบบ Escrow น่าเชื่อถือ 100% 2. ซื้อบิทคอยน์ด้วยเงินบาท ได้หลากหลายวิธี 3. มีระบบควบคุมการปล่อยเงินใน Escrow เพิ่มความปลอดภัย 4. ไม่มีค่าธรรมเนียมซื้อบิทคอยน์ 5. ซื้อบิทคอยน์จำนวนมาก ๆ ได้ (มากกว่า 100 BTC) |
Birtget P2P | 1. มีระบบ Escrow น่าเชื่อถือ 100% 2. ซื้อบิทคอยน์ด้วยเงินบาท ได้หลากหลายวิธี 3. มีะระบบ Feedback ผู้ขาย 4. ไม่มีค่าธรรมเนียมซื้อบิทคอยน์ 5. ซื้อบิทคอยน์จำนวนมาก ๆ ได้ (มากกว่า 100 BTC) |
เมื่อคุณตัดสินใจ ซื้อบิทคอยน์ ด้วยวิธี P2P คุณจะได้รับข้อดีหลายประการมากกว่าการซื้อขายผ่านระบบกระดานเทรด ดังต่อไปนี้คือ
ข้อดี |
---|
1. ปกปิดการทำธุรกรรมโดยสมบูรณ์ (ภายใตเงื่อนไขทางกฎหมายไทย) |
2. ซื้อบิทคอยน์ในปริมาณมาก ๆ ได้ |
3. เลือกราคาที่ตนเองต้องการได้ หรือตกลงกับผู้ขายในราคานอกตลาดได้ (OTC) |
4. ประหยัดค่าธรรมเนียมซื้อขายมากกว่าระบบกระดานเทรดปกติ |
5. ประหยัดจำนวนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่ต้องเสียตามฐานภาษีได้ (มาก) |
3. ตรวจสอบโปรไฟล์และความน่าเชื่อถือของผู้ขาย
หลังจากเราได้แพลตฟอร์ม peer2peer ที่จะใช้ ซื้อบิทคอยน์ แล้ว สิ่งแรกที่เราจะต้องทำนั่นคือ การตรวจสอบประวัติของผู้ขาย โดยมีหัวข้อที่จะต้องตรวจสอบดังต่อไปนี้คือ
หัวข้อที่ต้องตรวจสอบ | รายละเอียด |
---|---|
1. คะแนนรีวิวและ Feedback | คุณต้องตรวจสอบคะแนนรีวิว ซึ่งควรมีอย่างน้อย 4.5 จากคะแนนเต็ม 5.0 ขึ้นไป |
2. ประวัติการทำธุรกรรม | ตรวจสอบจำนวนธุรกรรมโดยควรมีมากกว่า 100 ครั้งขึ้นไป |
3. วิธีการชำระเงิน | ชำระเงินผ่านบัญชีธนาคารไทย ที่มีชื่อตรงกันกับผู้ขาย |
4. ต้องไม่ใช่บัญชีม้า | ตรวจสอบให้แน่ชัดว่า บัญชีที่คุณโอนชำระเงินไปนั้น ไม่ใช่บัญชีม้า |
หากคุณทำการตรวจสอบแล้วพบว่า ผู้ขายไม่มีพฤติกรรม ที่น่าสงสัย และไม่ใช่บัญชีม้า ก็ถือว่า สามารถทำธุรกรรมกับ ผู้ขายคนนั้นได้ตามปกติเลยครับ
4. ทำธุรกรรมผ่านระบบ Escrow เพื่อความปลอดภัย
แพลตฟอร์ม P2P ที่น่าเชื่อถือมักมีระบบ Escrow หรือการค้ำประกันการชำระเงิน เพื่อป้องกันการฉ้อโกง โดยผู้ขายจะส่งบิทคอยน์ไปยังบัญชี Escrow ของแพลตฟอร์มคุณชำระเงินให้ผู้ขายเมื่อผู้ขายยืนยันการชำระเงิน ระบบจะปล่อยบิทคอยน์ไปยังบัญชีของคุณ
ดังนั้นให้คุณเลือกแพลตฟอร์มที่มีระบบ Escrow เท่านั้น ซึ่งรายละเอียดของแพลตฟอร์มที่น่าเชื่อถือ ผมได้เขียนไว้ให้แล้วในหัวข้อที่ 2 ข้างต้นครับ
5. ยืนยันตัวตน (KYC) ตามข้อกำหนด
แม้จะซื้อขายโดยไม่ผ่านคนกลาง แต่ในประเทศไทยแพลตฟอร์ม P2P ที่ถูกกฎหมายจะขอให้คุณยืนยันตัวตน (KYC) ตามข้อกำหนดของ ก.ล.ต. กับทางผู้ให้บริการแพลตฟอร์ม ซึ่งโดยมากมักจะขอบัตรประชาชน หรือที่อยู่ของคุณ ก็ให้คุณดำเนินการให้เรียบร้อย (ส่วนมากระบบจะร้องขอเอกสารในครั้งแรก แค่ครั้งเดียว ครั้งต่อ ๆ ไปคุณไม่ต้องยื่่นเอกสารอีก)
6. โอนบิทคอยน์ไปยังกระเป๋าสตางค์ส่วนตัว
หลังจากได้รับบิทคอยน์ ควรโอนจากกระเป๋าสตางค์ของแพลตฟอร์ม P2P ไปยังกระเป๋าสตางค์ส่วนตัวของคุณ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและควบคุมสินทรัพย์ด้วยตัวเอง โดยรายชื่อกระเป๋าบิทคอยน์ แนะนำนั้นอยู่ในหัวข้อที่ 1 ครับ
7. ปฏิบัติตามกฎหมายเกี่ยวกับภาษี
ในประเทศไทย การซื้อขายบิทคอยน์ต้องปฏิบัติตามกฎหมายเกี่ยวกับภาษี เช่น การรายงานรายได้จากกำไรการลงทุน (Capital Gains Tax) หรือนำเสนอต่อกรมสรรพากรหากมีการสอบถาม ซึ่ง ณ ตอนที่เขียนบทความนั้นยังคงมีข้อถกเถียงกันอยู่ถึงวิธีการในภาคปกิบัติ แต่เพื่อให้ลดขั้นตอนการเสียภาษีให้มากที่สุด ให้คุณปฏิบัติตามกฎด้านล่างดังนี้
กฎ |
---|
1. ห้ามซื้อบิทคอยน์เกินกว่าครั้งละ 700,000 บาท เนื่องจาก หากคุณโอนเงินเกิน 700,000 บาทไปยังบัญชีผู้รับคนอื่น ธนาคารมีสิทธิเข้าตรวจสอบบัญชีของเราได้ |
2. ห้ามรับเงินบาทจากการขายบิทคอยน์ มากกว่า 1,800,000 บาทต่อปี หากคุณรับเงินบาทจากการขายบิทคอยน์ เกินกว่า 1,800,000 บาทในปีภาษี คุณจะต้องดำเนินการจด VAT 7% สำหรับบุคคลธรรมดา ซึ่งยุ่งยากมาก (ภาษีย้อนหลังแพงมาก) |
3. ห้ามซื้อบิทคอยน์มากกว่า 3,000 ครั้งต่อปี จำนวนธุรกรรมที่มากกว่า 3,000 ครั้งจะต้องถูกตรวจสอบโดยสรรพากร |
กฎข้างต้นนั้นไม่ใช่วิธีการเลี่ยงภาษี แต่เป็นวิธีประหยัดภาษีที่กฎหมายไทยเปิดช่องและอนุญาตให้ทำได้ ดังนั้นทุกครั้งที่คุณ ซื้อบิทคอยน์ ไม่ผ่านคนกลาง คุณจะต้องท่องและนำกฎทั้ง 3 ข้อนี้ไปประยุกต์ใช้ทุกครั้ง!
8. ป้องกันความเสี่ยงจากการหลอกลวง
เนื่องจากหากคุณซื้อบิทคอยน์จากระบบ P2P คุณมีความเสี่ยงทางการเงินที่ต้องแบบรับมากกว่า ระบบกระดานเทรด ดังนั้น คุณจะต้องควบคุมความเสี่ยงทางการเงินให้ดี เพราะความเสียหายเพียงครั้งเดียว อาจทำให้คุณสูญเสียเงินมากกว่าที่คุณกำลังจะหามาได้ ตลอดชีวิต โดยแนวทางแนะนำ มี 3 ข้อ เพื่อป้องกันความเสียงมีดังนี้
1. หลีกเลี่ยงผู้ขายที่ไม่มีประวัติหรือโปรไฟล์น่าสงสัย |
2. ตรวจสอบที่อยู่กระเป๋าสตางค์ให้ถูกต้องทุกครั้งก่อนทำธุรกรรม |
3. ใช้แพลตฟอร์มที่ได้รับการรับรองและมีชื่อเสียงเท่านั้น |
การซื้อบิทคอยน์โดยไม่ผ่านคนกลางในประเทศไทยสามารถทำได้อย่างถูกกฎหมาย หากคุณเลือกใช้แพลตฟอร์มที่น่าเชื่อถือและปฏิบัติตามข้อกำหนดทางกฎหมายอย่างเคร่งครัดครับ นอกจากจะช่วยลดต้นทุนการซื้อขาย ยังช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวและการควบคุมสินทรัพย์ของคุณอีกด้วย